วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เที่ยวอุทัยธานี

สังขารหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
บรรจุในโลงแก้ว ภายในวิหารแก้ว
..
หลังจากเสร็จงานวัดบางกร่าง
นนทบุรี แล้วก็รีบกลับบ้านพักผ่อน
เพราะเช้าวันอาทิตย์ที่ 3
มีโปรแกรมไป จ.อุทัยธานี
โดยมีจุดหมายหลักอยู่ที่ วัด ท่าซุง
ก้อตั้งใจไว้นานมากแล้วว่าจะไป
ก็พูดลอยๆกับพี่คนหนึ่งว่าอยากไปเที่ยวบ้านเขา
เพราะเขาเป็นคนอุทัยฯ
และเลยไปเที่ยววัดท่าซุงด้วย
พี่เขาก็บอกว่าเดี๋ยวถูกหวย 2 งวดซ้อนได้ไปแน่
ก็เข้าล็อกครับ งวดนี้(1 ต.ค.)ถูกทั้งผัวทั้งเมียเราก็เลยพลอยโชคดีไปด้วย
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ภายในวิหารแก้ว
สวยงามมากครับประดับด้วยกระจก
เวลาโดนแสงไฟแล้วระยิบระยับงามตามาก
โล่งโปร่งสะบายในความรู้สึก
แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะทางวิหารจะปิดทำกิจกรรม
ตามปกติของทางวิหารประมาณ
11.30-14.00 น.


หลังจากนั้นก็เข้าไปชมวิหารทองคำซึ่งอยู่ด้านในสุด
ก็สวยงามมากครับ แต่เสียดายเข้าชมได้เฉพาะชั้นแรก
ลวดลายที่ประดับก็สวยงามมาก สังเกตุว่าลวดลายบางส่วนเป็นงาน
หล่อไฟเบอร์กลาส ลงรักปิดทอง ประดับกระจกครับ


สังเกตุสีดำๆที่ใต้มือพระพุทธรูปนะครับ
เป็นผึ้งหลวงครับ


หลังจากเที่ยวดูในวัดได้เวลาพอสมควรแล้วก็
กลับออกมาเพื่อเดินทางต่อไปที่เขาสะแกกรัง
ตลอดระยะทางที่เดินทางนั้นทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
จะต้องมาที่วัดนี้อีกแน่ๆเพราะติดใจความงาม
และยังเที่ยวชมไม่หมด

เมืองพระชนกชนนี
ถ่ายบนยอดเขาสะแกกรัง
จะมองเห็นตัวเมืองอุทัยฯทั้งหมดเป็นจังหวัดเล็กๆ
สงบดีน่าอยู่ครับต้นไม้เยอะมาก
ส่วนอีกฟากหนึ่งของเขาสะแกกรังจะเป็นบรรยากาศทุ่งนา
เขียวขจีสุดลูกหูลูกตา

บนเขาสะแกกรังก็จะมีรอยพระพุทธบาทจำลอง
ส่วนระฆ้งใบใหญ่นั้นสร้างสมัย รัชกาลที่ 5
ด้านหลังของผมก็จะเป็นบันไดทางขึ้น-ลง เขา
ก็จะเป็นทางที่พระเดินลงมาบิณฑบาตร
จากเขายาวเป็นแถวที่เห็นตามสี่อต่างๆนั่นแหละครับ
ซึ่งปีนี้งานดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 23-24 ต.ค.นี้
เป็นวันออกพรรษาพอดีครับ
...
ขากลับหลังจากแวะที่บ้านเจ้าของพื้นที่แล้วก็เดินทางกลับ กทม.
โดยใช้เส้นทาง การุ้ง-หันคา-สุพรรณฯ
ปรากฏว่าเป็นเส้นทางที่เปลี่ยวมาก
และบังเอิญว่าฝนตกหนักมากตลอดทางที่ออกมาจากการู้งถึงกรุงเทพฯ
แต่ก็กลับมาโดยสวัสดิภาพ ปลอดภัยดีทุกคน
ทั้งหมดนี้ก็สมควรแก่เหตุนะครับ
สวัสดี
.....