วันนี้มีของมาอวดเหล่าช่างศิลป์ทั้งหลายผู้ทำมาหากินเกี่ยวกับงานช่างฝีมือ
งานศิลปะและช่างทั่วไปอื่นอีกมากมาย
เป็นเหรียญพระวิษณุกรรมครับผม ของโรงเรียนเพาะช่าง ผมมี2เหรียญครับ
คือเหรียญเงินที่แขวนประจำกับเหรียญทองแดงที่เก็บไว้อย่างดี
ด้านหลังบรรจุผงทองคำเปลวที่ลอกออกมาจากพระวิษณุกรรมองค์ใหญ่
หน้าโรงเรียนเพาะช่างครับ
*********
พระวิศวกรรม หรือเรียกได้อีกหลายชื่อว่า
พระวิษณุกรรม พระวิสสุกรรม พระเวสสุกรรม หรือ พระเพชรฉลูกรรม
เป็น เทวดานายช่างใหญ่ของพระอินทร์
ตามตำนานกล่าวว่า เป็นผู้สร้างเครื่องมือ สิ่งของต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น
และเป็นแบบอย่างให้กับมนุษย์สืบมา
พระวิศวกรรมรับเทวโองการต่าง ๆจากพระอินทร์
เพื่อสร้าง อุปกรณ์ สิ่งของ อาคาร ต่าง ๆ มากมาย
เป็นผู้นำวิชาช่าง มาสอนแก่มนุษย์
นับแต่นั้นมามนุษย์จึงรู้จักการสร้างและใช้งานสิ่งของต่าง ๆ
จนมีการพัฒนารูปแบบมาจนถึงปัจจุบันนี้
ช่างไทยแขนงต่าง ๆ ให้ความเคารพบูชาพระวิศวกรรมในฐานะครูช่าง
หรือเทพแห่งวิศวกรรมของไทย
โดยเรามักพบเห็นรูปจำลององค์ท่านได้บ่อย ๆ ตามสถานศึกษาทางช่างทุกสถาบัน
โดยนิยมสร้างอยู่สองท่า คือ
ท่าประทับนั่งห้อยพระบาท พระหัตถ์ข้างหนึ่งถือ ผึ่ง (จอบสำหรับขุดไม้)
และอีกข้างถือ ดิ่ง และท่าประทับยืนมือขวาถือไม้เมตรหรือไม้วา
มือซ้ายถือลูกดิ่งและไม้ฉาก
ที่มาขององค์พระวิษณุกรรมทั้ง 2 ท่านี้
พอขยายความได้ว่า หากสถาบันใดเปิดสอนวิชาชีพช่างก่อสร้าง
มักอยู่ในท่ายืนมือถือลูกดิ่งและไม้เมตรหรือไม้วาอันเป็นเครื่องมือของช่างก่อสร้าง
มาแต่สมัยโบราณซึ่งช่างทั้งหลายทราบดีว่าเป็นเครื่องมือสำหรับวัดระยะ
วัดความเที่ยงตรง แต่สิ่งที่นอกเหนือไปจากนั้นยังแฝงไปด้วยปรัชญาในการดำเนินชีวิต
คือความแม่นยำ เที่ยงตรง ไม่เอนเอียงในทางปฏิบัติ
ซึ่งเป็นที่มาของช่างที่ดี คือความมีคุณธรรมประจำใจ
หากสถาบันใดเปิดสอนวิชาชีพสาขาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ช่างก่อสร้างอยู่ด้วย
มักจะใช้ท่านั่ง เข้าใจว่าผู้สร้างคงจะชี้ให้เห็นเด่นชัดถึงสถาบันผู้ผลิตช่างก่อสร้าง
อันเป็นช่างเก่าแก่มีมาแต่ก่อนแล้ว
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ พระวิษณุกรรม และ พระวิษณุ
คนไทยเรียกพระวิศวกรรมว่า 'พระวิษณุกรรม'
และในที่สุดได้กร่อนลงเหลือเพียง 'พระวิษณุ'
ซึ่งเป็นชื่อของเทพที่คนไทยรู้จักกันในฐานะหนึ่งใน ๓ เทพสำคัญของศาสนาฮินดู
อันได้แก่ พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ
ทำให้หลายคนเข้าใจว่าพระวิษณุเป็นเทพแห่งวิศวกรรม
ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ในพระไตรปิฎก(อรรถกถา) กล่าวว่า ท่านเป็นผู้สร้างอาศรมให้แก่พระโพธิสัตว์หลายพระองค์
(ก่อนที่จะอุบัติเป็นพระพุทธเจ้า) เช่นในพระเวสสันดรชาดก
เป็นผู้สร้างบันไดเงิน บันไดทอง บันไดแก้ว
ทอดจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงมายังโลกมนุษย์ที่เมืองสังกัสสนคร
ซึ่งเป็นเส้นทางที่พระพุทธเจ้าใช้เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
(หลังจากเสด็จขึ้นไปโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ในช่วงเข้าพรรษา)
นอกจากจะเป็นสถาปนิกและเป็นวิศวกรด้านโยธาและสำรวจ
ดังจะเห็นได้จากผลงาน ๒ ประการที่ว่านี้แล้ว
พระวิศวกรรมายังเป็นวิศวกรเครื่องกลอีกด้วย
กล่าวคือ ท่านเป็นผู้สร้างวาฬสังฆาตยนต์
ซึ่งเป็นกงล้อหมุนรอบองค์พระสถูป
ปกปักรักษาป้องกันมิให้บุคคลเข้าใกล้พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
เมื่อครั้งที่พระเจ้าอชาตศัตรูได้รับส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุหลังพุทธปรินิพพาน
และอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในองค์พระสถูปที่ว่านี้
"กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร ฯ มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต
สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์"
หมายถึง กรุงเทพมหานคร เมืองแห่งเทวดานั้น
พระวิษณุกรรม เป็นผู้สร้าง ตามพระบัญชาของพระอินทร์
งานอื่นๆของผมก็คลิ๊กข้างล่างเลยครับ
........